กลยุทธ์การตรวจสอบ 3rd Party Sellers บนตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
บทนำ
ผู้ขาย 3rd Party Sellers มีส่วนสำคัญในตลาดออนไลน์มาโดยตลอด และในปี 2022 มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 60% บน Amazon แนวโน้มของ 3rd Party Sellers ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แบรนด์จำนวนมากพึ่งพาผู้ขายเหล่านี้ในการขยายตลาดและเข้าถึงลูกค้าใหม่
ผู้ขาย 3rd Party Sellers เป็นทั้งโอกาสและความท้าทายสำหรับแบรนด์ แบรนด์กับความสามารถในการควบคุมตลาดได้น้อยลง การตัดราคา สินค้าคุณภาพต่ำ และการตลาดที่ไม่สามารถควบคุมได้ ล้วนเป็นปัญหาที่แบรนด์ต้องเผชิญ
การไม่สามารถตรวจสอบผู้ขาย 3rd Party Sellers อย่างสม่ำเสมอ อาจส่งผลเสียต่อแบรนด์หลายประการ เช่น กลยุทธ์ราคา คุณค่าของสินค้า และชื่อเสียง แบรนด์ไม่สามารถควบคุมการตลาดและโปรโมชั่นของผู้ขายได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสื่อสารและภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งเหล่านี้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกและผลประกอบการของแบรนด์ การตรวจสอบผู้ขาย 3rd Party Sellers เป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์การขายของแบรนด์ ในบทความนี้ เราจะสำรวจกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพที่แบรนด์สามารถใช้ในการตรวจสอบผู้ขาย 3rd Party Sellers
กลยุทธ์การตรวจสอบ 3rd Party Sellers บนตลาดออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
ตรวจสอบผู้ขายที่ได้รับอนุญาตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเข้าใจพฤติกรรมบนโลกออนไลน์พวกเขาซึ่งอาจส่งผลต่อแบรนด์ของคุณ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ควรพิจารณา:
- ติดตามแนวโน้มราคาของผู้ขาย 3rd Party Sellers เพื่อตรวจสอบการละเมิดราคา: ติดตามราคาที่ขายโดยผู้ขายฝ่ายที่สามเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามกลยุทธ์ราคาของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณระบุการขายในราคาต่ำกว่า/ ราคาขายต่ำสุดที่กำหนด (MAP) และวิธีการดำเนินการที่จำเป็นเพื่อรักษาความถูกต้องทางด้านราคา
- ติดตามพฤติกรรมการจัดการสินค้าของผู้ขาย 3rd Party Sellers: เพื่อวางแผนการจัดการสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามระดับความพร้อมของสินค้าและการเคลื่อนไหวของสินค้าของคุณในแพลตฟอร์มของผู้ขายฝ่ายที่สาม สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความรวดเร็วในการขาย ความพร้อมของสินค้า และลดการเกิดสินค้าขาดสต๊อกหรือสินค้าคงคลังมากเกินไป เพื่อให้การจัดการ Supply chain เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า
- รับการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการขายของผู้ขาย 3rd Party Sellers: เพื่อเข้าใจผลการดำเนินงานของผู้ขายฝ่ายที่สาม ระบุพื้นที่ที่ต้องปรับปรุง และประเมินผลภาพรวมทั้งหมด ทั้งยอดขายและคุณภาพของแบรนด์สินค้าคุณที่ขายโดยผู้ขายฝ่ายที่สาม โดยการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียด รวมถึงการรีวิวจากลูกค้า
- ติดตามอันดับการค้นหาของผู้ขาย 3rd Party Sellers: เพื่อระบุผู้ขายที่ประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งทำให้คุณสามารถเข้าใจประสิทธิภาพของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของผู้ขายเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ยอดขายที่พวกเขาสามารถสร้างได้
และระดับการมองเห็นของพวกเขา - ติดตามการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์จากผู้ขาย 3rd Party Sellers: ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อหาตัวแปรสินค้าหรือการปรับเปลี่ยนที่ไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบว่าสินค้าของแบรนด์คุณได้รับการแสดงอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอในแพลตฟอร์มของผู้ขาย 3rd Party Sellers และระบุการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการแก้ไขเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์และป้องกันความเสียหายของสินค้า
- ตรวจสอบและจัดการการขายต่างประเทศของผู้ขาย 3rd Party Sellers: เพื่อให้แน่ใจว่าการขายเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน
รวมถึงการปฏิบัติตามนโยบายการกำหนดราคาและการกระจายสินค้า และเพื่อเพิ่มรายได้จากตลาดทั่วโลก
เทคโนโลยีที่ดีสามารถช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การติดตามกิจกรรมของผู้ขาย 3rd Party Sellers อาจซับซ้อน โดยที่บางแบรนด์ใช้เครื่องมือ BI หรือข้อมูลจากผู้ขายโดยตรง บางแบรนด์ใช้วิธีการแบบแมนนวลจากการรวบรวมข้อมูลมาจากหลาย ๆ ส่วน แต่วิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการใช้เครื่องมือการตลาดอัจฉริยะ ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ “Digital Shelf”
วิเคราะห์การตลาดอัจฉริยะ ช่วยให้แบรนด์ติดตามและปรับปรุงกิจกรรมของผู้ขาย 3rd Party Sellers ได้อย่างครบวงจร
- ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ขายฝ่ายที่สาม
- ติดตามข้อมูลการตลาดทั้งหมดแบบเรียลไทม์
- วิเคราะห์คู่แข่งเพื่อระบุโอกาสและความเสี่ยง
- วิเคราะห์เนื้อหาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้า
- วิเคราะห์คุณภาพของร้านค้าเพื่อเข้าใจประสบการณ์ของลูกค้า
Digital Shelf โซลูชันที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพออนไลน์ทั้งหมดของคุณ ติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก Anchanto เพื่อรับการสาธิตทดลองใช้งานได้ทันที